ความหมายและความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่
ไร้ขอบเขต เชื่อมต่อเครือข่ายทั้งหลายเข้าด้วยกันทั่วโลก ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างสูง
เพราะสามารถติดต่อสื่อสารได้กว้างไกล
ปัจจุบันแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น
อินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดผลกระทบทางธุรกิจ ได้แก่
- สามารถแข่งขันได้ทั่วโลก
- เว็บไซต์สามารถเป็นสื่อกลางของความร่วมมือในการทำงาน
- ลดบทบาทของพ่อค้าคนกลาง ผู้บริโภคในปัจจุบันสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อสินค้าที่ใด
- มีความเป็นอิสระในด้านเวลา
- สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูล หรือข้อความให้เหมาะแก่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มได้
บริการบนอินเทอร์เน็ต
1. เว็บบล็อก (Web
Blog) 2. ห้องสนทนา (Chat Room)
3. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail) 4. Files
Transfer Protocol (FTP)
5. Instant Messaging 6. World
Wide Web (WWW)
7. Newsgroups 8. Really
Simple Syndication (RSS)
9.
Video Conferencing 10. Voice Over IP (VoIP)
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง
การทำธุรกรรมทุกรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
สินค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สินค้าต่างๆ
ที่ขายบนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถแบ่งได้ 4 กลุ่ม ได้แก่
1. สินค้าที่จับต้องได้ (Tangible
Goods) 2. สินค้าที่จับต้องไม่ได้
(Intangible Goods)
3. บริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-service) 4. รายได้อื่นๆ
รูปแบบของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
รูปแบบในการทำการค้าบนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สามารถแบ่งออกเป็นรูปแบบใหญ่ๆ ได้ 5 รูปแบบ ได้แก่
1. Business to Business (B2B) 2. Business to Consumer (B2C)
3. Consumer to Consumer (C2C) 4. รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government)
5. การพาณิชย์เคลื่อนที่ (M-Commerce)
เทคโนโลยีที่นำมาใช้กับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในอดีต
โทรทัศน์และสิ่งพิมพ์เป็นสื่อหลักที่นักการตลาดเลือกใช้ และมีสื่ออื่นๆ
เพื่อลดช่องว่างที่หนังสือพิมพ์เข้าไม่ถึง สื่อที่นำมาใช้กับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ได้แก่
1. โปรแกรมสืบค้นข้อมูล (Search
Engine) 2. จอภาพดิจิทัล (Digital
Signage)
3. ดิจิทัลเกม (Digital
Games) 4. ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง (Viral Marketing)
5. Addressable
Media
6. Digital DNA
7. สังคมออนไลน์
การชำระเงินของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การขายสินค้าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มีวิธีการชำระเงินแบบต่างๆ ซึ่งคล้ายกับการชำระเงินค่าสินค้าตามปกติ ดังต่อไปนี้
1. ระบบชำระเงินแบบจ่ายก่อน (Pre-paid Payment System)
เป็นระบบที่ผู้ซื้อจะต้องนำเงินไปชำระให้กับธนาคาร เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินอิเล็กทรอนิกส์เสียก่อน
และเมื่อต้องการซื้อสินค้า ร้านค้าจะทำการหักเงินจากบัญชีนั้น
2. ระบบชำระเงินแบบจ่ายที่หลัง (Post-paid Payment System) ผู้ซื้อจะทำการซื้อสินค้า
โดยธนาคารจะจ่ายเงินค่าสินค้าให้ก่อน แล้วจึงมาเรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อ
กลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มีนักทฤษฎีมากมายนำเสนอกลยุทธ์การตลาดด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กลยุทธ์เหล่านี้คือวิธีการสร้างเว็บพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เป็นที่สนใจของลูกค้า และเป็นแนวทางให้เจ้าของเว็บไซต์ประสบความสำเร็จในการทำงาน
กลยุทธ์เหล่านี้ได้แก่
1.
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ในระดับพื้นฐาน มีดังนี้
1.1.
The
Objective คือ การกำหนดทิศทางที่ชัดเจนของการทำธุรกิจ
1.2.
The
Audience คือ การสร้างเว็บไซต์ให้เป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมาย
1.3.
The
Content คือ การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ น่าติดตาม มีข้อมูลใหม่ๆ ที่ชัดเจนตรงประเด็น
1.4.
The
Structure คือ การจัดวางโครงสร้างของหน้าเว็บ
ควรจัดวางภาพให้เหมาะสม
1.5.
The
Navigation คือ ตัวนำทางในการค้นหาข้อมูลที่ชัดเจน
2.
กลยุทธ์ 4I ได้ให้ความสำคัญกับปัจจัย 4 ประการ ได้แก่
2.1.
Information
หรือสารสนเทศ คือ การให้สารสนเทศที่ผู้ใช้ต้องการ
2.2.
Individual
คือ การเข้าถึงตัวผู้บริโภค
หรือนำเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคแบบเฉพาะตัว
2.3.
Interactive
หมายถึง ผู้ใช้และเว็บหรืออุปกรณ์สื่อสารจะต้องสามารถโต้ตอบกันได้
2.4.
Integrated
หมายถึง
จะต้องใช้เทคโนโลยีหลายอย่างเพื่อให้สามารถเข้าถึงตัวผู้บริโภค
และดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้มากที่สุด
3.
กลยุทธ์ 4C คือ กลยุทธ์การตลาดในยุคใหม่
ที่เน้นด้านความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มุมมองของกลยุทธ์นี้ ได้ ได้แก่
3.1.
Consumer
Solution คือ การคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก
3.2.
Consumer’s Cost คือ
การทำให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าต้นทุนของตนต่ำกว่าผู้อื่น
3.3.
Convenience คือ การคำนึงถึงความสะดวกของผู้บริโภค
ทั้งความสะดวกในการซื้อและในการใช้งาน
3.4.
Communication
คือ การติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคในภาพรวม
ไม่เน้นเพียงการส่งเสริมการขายเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น